วันพุธที่ 17 ตุลาคม พ.ศ. 2555

แนวคิดแทรคติคแบบเอาจริงเอาจังของนายJIMBOตอนที่ 19

ไปเที่ยวภูเก็ต กันดีกว่า กับ พี่JIMBO
@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@


เช้าวันรุ่งขึ้น ผมเตรียมพร้อมออกเดินทางเพื่อไปดูไซท์งานที่ภูเก็ต กำลังเตรียมเครืองมือ กริ้งๆๆๆๆเสียงโทรศัพท์ดังขึ้น.....เดินทางปลอดภัยนะค่ะ ผมงี้งง เต็กเลย อ้ายหยา..มีการอวยพรก่อนการเดินทางอีก ไม่ได้ยินเสียงสาวมาอวยพรนานแระ มีแต่ป๋า ค่ะ ป๋า ขา เฮ้อ...หัวใจเรามันสีชมพูเลยนะเนี่ย

ผมวางแผนการเดินทางก่อนทุกครั้ง นิสัยผมทำอะไรชอบวางแผนก่อนเสมอ แผนการเดินทาง ออกจากหาดใหญ่ ตรงไปดูไซท์ ที่พัทลุงก่อน เลี้ยวซ้ายออกตรังไปเยี่ยมไซท์ ที่ตรัง ตรงไปกระบี่ พังงา ภูเก็ต ตามลำดับ ไล่แผนงานตามแผนที่ ไซท์กลางทางมีปัญหาหรือไม่ แวะตรวจดูไปในคราทีเดียว เราจะได้ไม่ต้องมาบ่อยๆ มาครั้งหนึ่งไมสนุกเลย

ตั้งใจไปดูไซท์ที่การสื่อสารพัทลุงสะหน่อย เผอิญผ่านตรงแยกเข้าเมืองพัทลุง เค้ากำลังติดตั้งเสาต้นใหม่เลยแวบไปเยี่ยมสะหน่อย กำลังประกอบเสานะ ทำอย่างไรเราอยากรู้ว่าเสาต้นนั้นสูงเท่าไหร่ ผมถามเอลี่ ...เอลี่ตอบว่าเค้านับ สีเอา เสามันจะแดงขาว สลับกัน สีละ 6 เมตร นะนับไปเลย ว่ากี่ท่อนแล้วเอามาคูณกัน

ผมเลยเล่น 20 คำถามกับเอลี่ ว่า ถ้าเรานับแล้วมันตาลายงะนับไม่ถูกทำไงจะรู้ได้โยประมาณนะ เอลี่มันงง.....บอกว่าไม่รู้ดิ คิดไม่ออก เพื่อนๆครับ วิชาตรีโกนที่เรารียน พึ่งงัดมาใช้ตอนนี้แหละ เพราะฉะนั้นอย่าลืมสูตรตรีโกน นะครับมีประโยชน์ ผมแสดงให้ เอลี่ ดู วัดเงาเอาว่ายาวเท่าไหร่ แล้ววัดองศา ดวงอาทิตย์ขณะนั้น แล้วงัด วาย คอส แทน มาปัดฝุ่นงะ มันเลยถึงบางอ้อ มุมตกเท่ากับมุมสะท้อน สูตรตรีโกน นำมาประยุกตร์กับชีวิตประจำวันได้ครับ เพื่อนๆคงงง ว่ามันเกียวกับอะไร กะชีวิต ผมตอบให้ การที่เรากระทำอะไรไปกับใคร ผลมันจะเด้งมาหาเราเท่านั้น หรือถ้านำไปประยุกตร์กับการค้า เวลาต้องการความรวดเร้วในการคิดราคาทุน+ขาย นึกไม่ออกว่าจะคำนวนเช่นไร ให้ใช้มุมตกเท่ากับมุมสะท้อนทันที่ ซื้อมาเท่าไหร่ + ไป1 เท่า น้านแหละคือราคาขาย ไม่ขาดทุนแน่นอน

โอ้โห พี่จิม โหด บางคนอาจคิดแบบนั้น ไม่โหดหรอก ลองคิดดู ซื้อมา ต้องมีค่าขนส่ง ค่าโทรศัพท์ ค่ำดำเนิดการ กำไร อีก ค่าเหนื่อยตัวเรา ค่าความเสี่ยง ขายไม่ออกเงินจม ค่าเสียโอกาส ยุบยับ ไปหมด เพราะฉะนั้นถ้าเราคิดแทน ดีลเลอร์ ดิสตริบอ้วเต้อรื ต้องบวกถึง 150%นู้นแหละ ถึงแมชชิ่งพ้อยต์ ไม่เข้าใจอีก ลองไปยืนกลางแดดสิ พระอาทิตย์มุม เตี้ยๆ เงาเราทอดยาวชิมิ ถ้ามุมสูงๆๆมากๆ เงาเราสั้นจุดจู๋

อ้าว..นอกเรื่องไปไกล ผมมองดูพวกที่กำลังประกอบเสาสักพัก ผมถามว่าพวกนี้ผู้รับเหมาหรอ เอลี่พยักหน้าว่าใช่ แล้วเค้าเหมาอย่างไร

เอลี่...ตอบว่า พวกงานคอนสตรัคชั่นก็เหมาก่อสร้างไซท์+ค่าตั้งเสา อีกชุดติดตั้งอุปกรณ์ อีกชุดหนึ่งเหมางานทำคอนฟิกร์ระบบ ถ่าทำไม่ทันพวกเรานะเสริม เข้าไป เซทอัพ และคอนฟิกร์ระบบ เงินดีไหม เอลี่...บอกว่าไม่รู้นะ ผมถามต่อว่า ไม่รู้หรือแกล้งไม่รู้เป้นความลับ

มันบอกว่าไม่รู้จริงๆ ไม่รู้ก็ไม่รู้วุ้ยส์ ไม่ง้อ มีปังยาหาเองได้ ผมบอกดังนั้น เอลี่ บอกว่าอยากรู้ไปทำไม ผมบอกว่า ยูอยากได้เบนซื จาก ล้อตเตอรี่ หรือ จากการทำงานละ อยากได้ไม่ใช่หรือ เดว ปั้ดเหนี่ยวเลย มัน พยักหน้า ยูทำได้หรือ มันถาม ผมบอกว่า Follow me everything gonna be alright


ผมเดินไปหาผู้รับเหมาทันที พี่ๆเป็นไงบ้างครับ จับปูใส่กะด้งกับคนงาน ช่วงนี้งานขึ้นเสาแบบนี้ มีเยอะ ครับพี่ผู้รับเหมาตอบ งานขึ้นเยอะทำไม่ทันเลย

ผมเริ่มขุดบ่อล่อปลาต่อ ....เดือนนึงคงจ่ายค่าแรง+โอทีอ้วกเลยนะ เค้าหัวเราะ ค่าแรงผมงวดนึง 3-4 แสนบาทนะต้องจ่าย โอ้โหเยอะนะพี่ อย่างว่าผู้รับเหมาเก่งๆอย่างพี่ ไม่เกินความสามารถทำงานเร็ว ปั่นเงินเร็ว

เค้าหัวเราะหน้าบานเท่ากระด้ง ผมไม่รอช้าถามต่อเลย แล้วพี่รับไว้กี่ต้นละ เค้าบอกว่า ตอนนี้ติดตั้งมา 27 ไซท์แล้วในเดือนนี้ แล้วพี่รับของกับแรงเลยเปล่า เค้าตอบว่ารับแต่แรงอย่างเดียวนะ แล้วนี้เว้นต์ไว้กี่ไซท์ละเนี่ยะ เค้าบอกว่าไม่ได้เซ้นต์ อ้าว..ไหนเป็นแบบนั้น....ไม่มีแผนหรอ ว่าจะต้องทำที่ไหนบ้าง ผมชัก งองู สองตัว

เค้าบอกว่าต้องบี้ให้เร็ว เพื่อที่จะได้ยึดพื้นที่งานในไซท์ถัดไป เพราะเจ้าอื่นเตรียมยึดงานเช่นกัน ต้องทำงานแข่งกับเวลา ผมถามต่อว่า พี่ครับคนงานพี่มีกี่คนละ เค้าบอกว่ามี 20 กว่าคน ผมเริ่มคำนวนในหัว เพื่อหาราคารับเหมา สตพ อิอิ

เหอๆคิดอย่างไรหรือครับ มะยากส์ เดือนนี้ 27 คนงาน 20กว่าคน ผมให้คนละ หมื่นเลย เดือนนึง 270000 + โอทีอีก 50% ประมาณ 4 แสนบาท/เดือน ที่ต้องจ่ายลูกน้อง ผมดูงานกะด้วยสายตาไซท์ นึง 7 วัน โยกคนเอา ทำได้ 4 รอบ อย่างมากที่เหลือราคาคุย 27 ไซท์

สันดานผู้รับเหมานะ เหมือนกันหมด อย่างมากไม่เกิน 15 ไซท์/เดือน เอาค่าแรงทั้งหมดตั้งเลย 4 แสนบาท หารด้วย 15 ไซท์ จะเป็นค่าแรงทุน 3 หมื่น/ไซท์โดยประมาณค่าบริหารการจัดการ น่าจะ 50% ไซท์ เป็น 45000บาท/ไซท์ +กำไรอีกสัก50 % ประมาณสัก 7 หมื่นบาท/ไซท์ ผมถามเค้าต่อว่าแล้วตั้งเสานี้รวมด้วยเปล่าในงานรับเหมา เค้าตอบว่า ตามสัญญารวมด้วยแต่แยกเป็นพิเศษ เพราะแบบเสาและความสูงไม่เท่ากัน อิอิ เราได้ราคาโดยที่ไม่ต้องถาม แล้วเราจะ สตพ ได้ เช่นไร ไม่ถามตอนนี้หรอกเสียฟอร์ม

ได้ตัวเลขในใจแระว่ารับเหมาก่อสร้างต่อไซท์ ได้ตังค์ประมาณ 7 หมื่นบาท นี่คือสิ่งที่ผมคำนวนคร่าวๆในสมอง เพื่อนคงถามผมว่า พี่จิม ไมไม่ถามตรงๆไปเลย โอวโนว...ครับเอะอะไรถามไม่ใช้สมอง เดวสมองพี่มันจะทื่อ เอา ผมชอบลับสมองประจำทุกวันนี้ยังไม่ยอมใช้เครืองคิดเลขเลย ใช้บวกสดเอานะ สนุกดีออก

ผมเขยื้อนก้นออกจากๆไซท์ นั้นไปทำคอนฟิกร์ต่อ ที่ไซท์การสื่อสาร พัทลุง นะครับ ระหว่างทำงานง่วนกับคอมพิวเตอร์ และสายเคเบิ้ลเป็นพันๆเส้นๆ เหนื่อยเจงๆ

เสียงกริ้งๆ.....โทรศัพท์ดังขึ้นอีกแระ ทานข้าวยังค่ะใกล้เที่ยงแล้ว เสียงใสๆ ผมยิ้มแก้มปริ ป้าดจะยิ้มไมละ ยังมะเป็นแควนกันสักหน่อย ยังเลยครับ ทานข้าวนะดูแลตนเองมั่งไม่ใช่ดูแต่เสามือถือเพลินจนลืมทานข้าว ขอบคุณครับ ผมนึกในใจเราไม่เคยได้ยินประโยคแบบนี้มานานแระ

พี่จิม....ลองฟังเพลงนะกำลังซ้อมร้องเพลง คืนนี้กะร้องเพลงนี้นะ ผมถามว่าเพลงอะไรครับ สาวเจ้าตอบว่า I'm not a girl not yet a women ของบริทนี่เสปียร์นะ ว่าแล้วเค้าก้ร้องให้ผมฟัง จนจบ

อันนั้นไม่เท่าไหร่ มีอีกเพลงค่ะ Out of reach แหมๆเพลงนี้ เค้าบอกว่าตั้งใจร้องให้ผมฟังสะด้วย เฮ้อฟังจบ เล่นเอาผมเคลิ้มทีเดวเชว แหมๆสตรีเพศกับเรื่องหัวใจยามสุขมันก็โอเคเนอะพี่น้อง


ผมทานข้าวเสร็จ ออกจากไซท์พัทลุงตรงดิ่ว ไปเล้ย ตรัง ระหว่างทางผ่านเขาพับผ้า สวยมากครับ แต่ทางที่เราไปเขาพับผ้าไม่มีแล้วเค้าปิดเส้นทางให้เราวิ่งเลาะเขาไป ระหว่างทางมีงูตัวยาวบะเอ้บเลยวิ่งตัดหน้า วิ่งจากซ้ายไปขวา ผมงี้เบรคตัวโก่งเชว มีอะไรหรือป่าวหว่า

ผมเคยได้ยินชาวบ้านบกว่าถ้งูวิ่งตัดหน้ารถไม่ดี ...ช่างมันวุ้ยส์ อะไรจะเกิดให้มันเกิด วิ่งผ่านมาสักระยะนึง มีร้านค้าผมแวะซื้อยาเสพติด เลยเล่าให้ฟังเรื่องงู เค้าบอกว่า ถ้างูวิ่งตัดหน้ารถ ขวาไปซ้ายให้หยุดการเดินทาง จะมีอุบัติเหตุ แต่ถ้าซ้ายไปขวาโชคดีมีชัย งั้นเรารอดตัวแหะ จะโชคดีอะไรหว่า


ไปไซท์งานไล่ดะไปเรื่อยจนถึงภูเก็ต มีแผนงานว่าการติดตั้งบนยอดเขารัง ในวันรุ่งขึ้น ผมโทรหาพี่สาวที่เป้นเจ้าแม่ทัวร์ที่นั้นมา 30ปีแระ บอกว่าวันนี้จะไปหาที่บ้านขอซุกหัวนอนพร้อมกินข้าวหน่อย

ส่วน เอลี่ ผมไปส่งมันที่โรงแรม เอลี่ มันเกรงใจ เย็นนั้นเลยไปกินข้าวบ้านพี่สาวผม ผมพาเอลี่ไปด้วยครับ


กิจการข้าวกล่อง ตากาล้อค
@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@


พี่สาวผมทำกับข้าวเยอะแยะ ผมบอกว่าทำไมมันเยอะขนาดนี้ เค้าตอบว่า มีน้องๆที่ทำงานทัวร์มาทานด้วยหลายคน ผมพยักหน้าตอบรับ สักพักเดว อูยส์นกกระจอกแตกรังเชว มากัน 4 คนเป้นสาว 3 ชาย 1 คน มากินข้าวที่บ้านพี่สาวผม ผมนึกในใจสงสัยเป้นแขกพิเศษนะ ไม่ว่าไรกัน ไม่ติดใจ

พอทานเสร็จน้องๆเหล่านั้น ช่วยกันคนละไม้คนละมือ ล้างจานทำความสะอาด ผมบอกว่าไม่เป้นไรเดี๋ยวผมล้างให้ เป็นแขกมา เดวจัดให้ เค้าบอกว่าแขก อะไรกันมาทานประจำพี่ผมคือผู้มีพระคุณ อ้าว งง ไปอีกวุ้ยส์ เรา



ระหว่างทานข้าวกันไป ก็คุยแลกเปลี่ยนสารทุกข์สุขดิบกันกับน้องๆเหล่านั้น ส่วน เอลี่ หรอ น้ำลายไหล มีน้องท่านหนึ่ง สวยมากๆมันเจาะแจะแต่คนนั้น

ส่วนเรื่องราวที่ทำให้ผมงองูสองตัว น้องเค้าเล่าว่า พี่ผมเค้าทำแบบนี้มาหลายรุ่นแล้ว ทำอย่างไรละ เพื่อนๆอาจถามต่อ

คือคนทำงานที่มาจากต่างถิ่นเดือนแรกไส้แห้ง เงินเดือนไม่ออก พี่สาวผมจะรับมาอยู่ที่บ้าน ทำกับข้าวให้ทาน จนสิ้นเดือน เงินเดือนออก มีปัญยาขยับขยายไปเช้าห้องก็ไป ไม่มีปัญญาไม่ว่ากัน ส่วนย้ายออกไปแล้วไม่อยู่ตัวก็มาทานข้าวที่นี้แหละ พี่สาว ผมเลี้ยง ฟรีๆ

น้องเค้าบอกว่า ตอนนี้ ทำงานเดือนที่สอง แล้ว เงินเดือนมะพอยาไส้ ต้องใช้หนี้ก่อน เลย ต้องเอาท้องมาฝากกับ พี่ สาว ของผมนะ ก่อนพวกหนูมานี่ก็มีรุ่นก่อนหน้านี้มาแบบนี้แหละ อ๋อ ผมพยักหน้า ผมหันไปถามว่าพี่สาวผมทำแบบนี้มากีปีแล้ว พี่ผมบอกว่าทำมา เกือบ 20 ปีแล้ว

ผมถามพี่ว่าทำไมทำตนเป็นมูลนิธิ อย่างนี้ พี่สาวผมบอกว่า นึกถึงตัวเค้าวันแรกที่เหยียบมาภูเก็ต มันลำบากมากๆ ไม่มีใครอุ้มชู ต้องกิน มาม่า มันทุกมื้อนะ อ๋อ อย่างนี้นี่เอง ชื่อพี่สาวผมถ้า บอกไป คนทั้งภูเก็ตรู้จักหมดละครับ



หลังจากทานข้าวเสร็จโม้กันพอควร ทุกคนมีมติว่าวันนี้เราจะออกไปแต้ด กันยกก้วน เอลี่เสนอว่า มันมีเพื่อนฟิลิปปินส์ ร้องเพลงที่ กะตะ กะรนเราจะไปฟังเพลงที่นั้นก่อน ว่าแล้วเอลี่ ก็ยกหูโทรฯ มันพูดภาษาตากาล้อคกันสักพัก แล้วหันมาบอกว่า Let's go

เรายกก้วนกันไปร้านอาหารที่ กะตะ กะรน ครานี้เป็นคนไทย 6 คน ฟิลิปินส์ เอลี่ 1 คน ที่ร้านอาหารมีก้วน ฟิลิปินส์ อีก 4 คน โอ้โหโตะเบ้อเหิ่ม พวกนั้น ร้องเพลงเสร็จก็เวียนกันมาแจม พวกฟิลิปปินส์ และเอลีเริ่มคุยกับพี่สาวผมเรื่องกิจการทัวร์ในไทย และการทำทัวร์ที่ภูเก็ต


พวกนั้นสนใจกิจการของพี่สาวผม และทึ่งเรื่องทำตนเหมือนมูลนิธิ ในภูเก็ต ถามแพคเกจกันยกใหญ่ อิอิ ผมนึกในใจ เดวเสร็จ พี่ตูแน่ พวกนี้ แหมพี่น้องกันทำไมมะรู้มุก


ผมก็คุยและถามพวกฟิลิปปินส์ว่า ในภูเก็ตมีร้านอาหารตากล้อค ไหม
เค้าบอกว่าไม่มี แล้วพวกคุณตกลงทำกับข้าวกันเองดิ พวกเค้าพยักหน้ากัน วกนั้นต่อว่า ในภูเก็ตมีฟลิปปินส์อยู่เยอะไหม พวกนั้นบอกว่าไม่เกินร้อย ผมถามเอลี่ ทำไม่ไม่เปิดร้านฟะ รวมกันดิเอาเงินมารวมกันเปิดร้าน ตากาล้อคไปเลย มันบอกว่ากลัวเจ้ง ผมทำหน้างง

มันตอบว่าอาหารตากาล้อค มันมีกระทิเยอะ ยูลองสังเกตุสาว ฟิลิปปินส์สิว่าแล้วมันก็ชี้ไปที่เพื่อน นักร้องหญิง ว่าหน้าสวย พุงเบ้อเร่อเลย หน้าสวยพุงใหญ่ หนอย ไอ้นี่หยาบคาย ว่าสาวได้ไง

พวกนั้นบอกต่อว่ามันเป้นอาหารจำเพาะกลุ่มเท่านั้นอะเปิดไม่ได้ไม่กล้าเสียงก็ไม่เปิดไม่ว่ากัน


ผู้ชนะมองปัญหาเป้นโอกาส ผู้แพ้มองปัญหาคืออุปสรรค

คติพจน์นายจิม....ครับพี่น้องเรื่องอะไรหยุดแค่นั้น ผมยิงต่อ ลืมบอกไปว่า นักร้องคนนี้ที่ผมคุยด้วย ชื่อ อาเบล ผมบอกไปว่าในเมื่อคนฟิลิปปินส์ในภูเก็ตไม่ถึงร้อย ทำข้าวกล่องไหม คนฟิลิปปินส์ส่วนใหญ่มาจากเผ่าผีตองเหลือง ครับพี่น้อง กลางวันนอน กลางคืนร้องเพลง ไม่มีเวลทำกับข้าว หรือถ้าทำก็ ลกๆๆ จะต้องรีบตาเหลือกไปทำงาน ใช่ไหม

ครานี้พยักหน้าได้ ผมอธิบายต่อว่าข้าวกล่องคือ ทำกับข้าวฟิลิปปินส์ ใส่กล่องส่งให้เพื่อนๆที่อยู่ด้วยกัน อาเบลตอบว่าต่างคนก็ทำกับข้าวตนเองอยู่แล้วทำไมต้องซ้ำซ้อน



ผมบอกต่อว่า ยูลองคิดดูถ้าต่างคนต่างแยกทำ ค่าใช้จ่ายมันสูง พวกยูมาทำงานหาเงินเพื่อเก็บเงินใช่ไหม มันพยักหน้ากันอีก เอางี้ถ้ามันไม่สามารถทำเป็นธุรกิจได้ อย่างน้อยก็ช่วยพวกยูเซฟเงินในกระเป๋า จ่ายกับข้าวรวมกันสิ กินเหมือนกันทุกคน มันงง อีกแหะ ผมบอกว่ารวมกระเป๋ากัน

มันงงกันอีกแหะ.....เหนื่อยนะวุ้ยส์นั่งอธิบายเกท ช้าเจงๆ ผมนึกในใจ ผมบอกว่าในกลุ่มยู หาคนที่ทำอาหารแล้วอร่อย คัดตัวมาให้เค้าจ่ายกับข้าวแล้วทำมันหม้อใหญ่ๆแล้วไล่ส่งกัน ไม่ต้องเอาไปไกลหรอก

ตอนแรกก็จับกลุ่มร้องเพลง ใน ป่าตอง กะตะกรน ก่อน จะได้เซฟค่าใช้จ่าย เดลิเวอร์ลี่ โดยหารกันออกค่ากับข้าวเวลาไปจ่ายตลาด แล้วหมุนเอาระหว่างบ้านฟิลิปปินส์ อาทิตย์นี้ บ้านนี้ อาทิตย์หน้าบ้านท่านอื่น แค่นี้ ก็เซฟได้มากโข หมุนกันส่งรับของจ้างมอร์ไซค์ หรือคนฟิลิปปินส์ด้วยกันขี่รถมอร์ไซค์ส่งอาหารนะ

แต่อย่าลืม ใสแบรนด์ตนเองไปด้วยข้างกล่องเพื่ออะไร งง ใช่ไหม พี่น้องในเมื่อมันเป็นของแชร์กันออกทำไมต้องมีแบรนด์ ผมอธิบายให้ฟังว่า เริ่มต้นคือการรวมทุน แนวคิดสองคือต่อยอดจากกลุ่มฟิลิปปินส์ไงครับ ระหว่างยูเอาไปส่ง อย่างน้อยเหลือซากโฟมให้เพื่อนในกลุ่มเอาไปทิ้งในถังขยะ ให้คนอื่นได้เห็นว่ามีอาหารฟิลิปปินส์ใน ภูเก็ต แล้วหัดให้เพื่อนคนไทยชิมด้วยละ อาหารไทยมีกระทิเช่นกัน

พวกนี้พยักหน้าตามผม ไม่รู้เหมือนกันมันจะวัฒนธรรมเดียวกันกับเราหรือไม่พยักหน้าส่งเดช

เอลี่ถามผมว่าจะใช้แบรนด์อะไรดี ผมนั่งนึก....ติ้กต้อก สายตาผมก็กวาดไปรอบห้อง อั้นแน่ เจอแระ ผมเจอกระถางต้นไม้ใส่ ดอกไม้ไว้สวยมาก ผมเลยถามเอลี่ ว่า ดอกไม้ภาษาตากาล้อคคืออะไร มันตอบว่า เค้าเรียกว่า สฟา BuLak Lak น้านแหละโดนเลย ยูและพวกไปนอนคิดนะว่าจะเอาชื่ออะไร เดวพรุ่งนี้ ไอมาใหม่มารอคำตอบ แต่ตอตนนี้ พี่จิม เวียนหัวอีกแระ ขอนอนก่อนนะครับ พรุ่งนี้มาเจอกันกัน บาย บาย จุฟฟฟ จ้วฟฟฟ




ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น