วันอังคารที่ 16 ตุลาคม พ.ศ. 2555

จากเจ็กโบ้ขายปลาทูนึ่งตามตลาดนัด กลายเป็น ผู้นำเข้าปลาทูแช่แข็ง (ตอนที่4)

ตอนที่ 4 Work Hard to become Work Smart--------------------------------------

ถอยสมองออกจากงาน routine
------------------------------
มาต่อกันนะ.....ผมก็ขายปลาทูตามสไตล์ของผม เพื่อนๆและญาติ มันบอกว่า มรึงมันบ้า อิอิ เหมือนนักวิชาการด่า..
ทักกี้เลย แต่ไม่เป็นไร ผลงานคือ เครืองวัด ความสำเร็จ ผมวิ่งเอาปลาสะหน้ามืด เลย อิอิ คิดดูเอ๋อย่างแรงขับรถ
กลับจากห้องเย็น ขับเลยตลาดปากเกร็ด มารู้สึกตัวอ้ายหยา บางปะอินนู้นเลยอย่างงี้ไม่ได้การซะแล้ว เดี๋ยวลงหลุม
ซะก่อนได้ใช้ตังค์ ผมพอมีเงินเก็บอยู่บ้าง อิอิ ไม่มากหรอก แค่ล้านเดียวเองหลังจากขายปลาทูที่ตลาดได้ 8 เดือน
ตอนนี้ผมมาได้ห้องเย็นใกล้บ้านหน่อย อยู่ซอย นวดสีชมพู บ้าน ท่าน ชวลิต ปิ่นประภาคม แยกแคราย

คิดๆๆ เราต้องเป็นคนขายปลาทูแช่แข็งให้ได้ อันนี้ผมได้แรงบันดาลใจ จากพ่อ พ่อของ ผมเป็นคนจีนงะ พ่อผม
สอนว่า คนเราถ้าไม่มีฝัน ไม่มีความหวังคือ คนที่ตายแล้ว สานฝัน ต่อเลยนายจิม ตอนแรกเค้าไม่ขาย ปลาทูแช่แข็ง
หรอก เค้านึ่งขายเอง ที่ตลาดบางซ่อน ผมชอบสำรวจตามตลาดต่างๆนะ เลยทราบว่าเจ้านี้นึ่งเยอะ วันนึงนึ่งเป็นตัน
ได้การละ อิอิ ผมชอบไปตอนดึก เพราะผมอยากทราบวงจร การค้าขาย ของเค้าเป็นเช่นไร

ทุก 5ทุ่ม รถห้องเย็น 10 ล้อ จะเอาปลามาส่ง คันนึงก็ แบกประมาณ 10 ตัน แต่แปลกแหะ รถดันทะเบียน สตูล
แสดงว่า ไม่ได้ซื้อปลาแม่กลอง หงิมๆๆ มาสังเกตุ ข้างแพคปลาทู ปลาทูเค้าแช่แข็งแพคใส่กล่องกระดาษ ดู
เรียบร้อยสะอาดตาดี มีตัว หนังสือ เขียนว่า Kept below -18 แล้วเขียนว่า Keddah Malaysia ได้การละผมรีบต่อ จิ๊ก
ซอร์ ทันที แสดงว่า ปลานี้ แพคที่มาเลย์ ผ่านแดนทางสตูลมา อะถ้านายจิมทำแบบเค้าก็ Simple สิ เสียแรงศิษย์ทัก
กี้ หมด

ตามหาเส้นทางปลาทู
---------------------
พ่อ จิม สอนลูก ไม่ใช่พ่อรวยสอนลูก พ่อบอกว่าคนเราจะทำอะไรรู้ให้จริง แม้นขายเต้าฮวย ก็รวย ได้ อะได้ที แอง
กิ้วมากเตี๋ย จุฟฟ ไม่รอช้า ฝากแผง ไว้กับเมีย ขับรถลงใต้ สำรวจก่อน ไล่จากเพชรบุรีไปเลย ค่ำไหน นอนนั่น ตอน
นั้นเริ่มเดินทาง คืนเดือนหงาย คืนแรก ไปพักชุมพร แวะรายทางโชคร้ายงะนายจิม ไม่เจอ ปลาทูสดแม้กระทั่งงตัว
เดียว แหะ กินแห้ว ได้รับคำตอบว่า ไม่มีหรอกช่วงนี้ ปลาต้องเดือนมืด ผมถามว่าทำไมละ เค้าบอกว่าเวลาจับปลา
ทู หลังปลาทู มันจะเรืองแสง ถ้าคืนเดือนหงาย แสงมันจะกลบไปหมด ไม่เป็นไรนะนายจิม ผมบ่นกับตนเอง ได้
ข้อมูลก็ คือ ทรัพย์ทางปัญญา

ผมขับไปเรื่อยๆ คืนสองนอนที่ขนอม นครฯ ก็ ได้คำตอบเช่นเดิม แต่ที่นี่ คำตอบชัดเจนมาก ถึงมีปลา ซื้อปลาได้
แต่ต้องกอง ปลาไว้ที่นั่น อ้าว ซวยแระกู พวกจะยิงกบาลให้ มะเปงรายนะนายจิม รีบยกมือไหว้ แล้วออกมาอย่าง
เร็ว มันอะไรของมันหว่าเนี่ย .......

คืนที่สาม ไปนอน สงขลา เก็บข้อมูล อะ ที่นี่มีห้องเย็นเยอะวุ๊ย ลองไปถามห้องเย็นดูดิ อัตราค่าแช่แข็งเท่าไหร่ หว่า
ได้คำตอบมาว่า 1 บาท /กิโล แล้วที่สงขลามีรถห้องเย็นด้วย ค่าขนส่งเข้า กทม กิโลกรัมละ 1.10 บาท แหะ สรุปถ้า
เราได้ปลาแถวนี้ เราจะมีต้นทุน คือ ค่าแบกปลา จากเรือ มาที่ห้องเย็น ค่าฟรีซ แล้วค่าขนส่งเข้ากทม อะได้การแล้ว
นายจิม

คืน 4 ไปนอน สะกอม นะ ที่มีปัญหาท่อแกส ทุกวันนี้ ที่นี่นอนฟรี มีญาติอยู่ที่นั่น ตรงนั้นมีเรือประมง กอแระ อยู่
มากมาย ญาติกันเป็นเปาะสู คือคนใหญ่ในท้องที่นั้น เค้ามีอาชีพรับซื้อปลาจากประมง อ้อ ได้ ทีแหะ เรามีแนวร่วม
ถามเลยว่าปลาทูขนาด 11-12 ตัวโล รับซื้อกิโลละเท่าไหร่ ได้คำตอบว่าโลละ 7 บาท อ่อยไว้ก่อน เราไม่รู้ใครเป็น
ใคร แค่หลอกถาม อย่าผลีผลาม
แล้วถามต่อว่า ปลาส่วนใหญ่ที่จับได้ขนาดเท่าไหร่ เค้าบอกว่า ส่วนมาก 18-19 ตัวโล งั้นหมายความว่าอะไร เค้า
เลยให้ความรุ้ผมว่า ปลาทู มันออกไข่ ที่แถว แม่กลอง หรือ อ่าวไทยตอนบน จะออกลุกมา ราว 80 ตัวโล แล้วว่าย
น้ำมา พระจันทร์เต็มดวง 3 ดวง จะขนาด 18-19 ตัว/โล ถึงปัตตานี อะได้การแระ เราได้เส้นทางการว่ายของปลาทู
อย่างงี้นายจิม อยากได้ปลาไซส์ไหน ขับรถตามปลาทูเลย

คืนที่ 5 มานอนที่ สตูล ผมขับรถ ไปยันตากใบ แล้วขับอ้อมมาฝั่งอันดามัน วันรุ่งขึ้นรีบเลย ออกหาข้อมูล ได้ความ
แล้ว ผมขับไปยันปากบารา ไปจ๊ะเอ๋ กะรถห้องเย็นที่ขับปลามาส่ง ที่กทม เจ้าของแพปลาที่ส่งเข้ากทม เป็นกำนันที่
นั่น ผมรีบเข้าไปถามเลย ว่าเอาปลามาจากที่ไหน ผมเห็นข้างกล่องเขียน เคดดาร์งะ ผมเป็นลูกค้าประจำเค้า เค้า
บอกว่าถามทำไม เสียงเขียวเชียว นึกในใจ จะเอากระสุนยัดกบาลกูป่าวหว่า ผมบอกว่าเผอิญเห็นรถห้องเย็นของ
กำนัน เลยเข้ามาขอบคุณที่ทำให้ผมรวย เค้างง ....อะ รวยอย่างไรไม่เข้าใจ ผมบอกว่าผมใช้ปลาของเค้ามาตลอด ลูก
ค้างี้ชมเป็นเสียงเดียวเลยว่าอร่อยมาก กำนัน จากหน้าแดง กลายเป้นยิ้มแห้งๆ หน้าบาน เท่ากระด้งมั้ง

ผมเลยบอกกำนันว่า ผมนะมาทั้งทีขอปลาติดมือ กลับบ้าน เท่าที่รถผมจะแบกได้ กำนันเค้าโอเคเลย อะไม่มีปัญหา
ผมบอกแกว่าอีกสองวันจะมาใหม่ ตอนนี้ขอไปเที่ยวก่อน แล้วจะโทรมาบอก ระหว่างที่ผมคุยกะแก ผมก็พยายาม
กวาด สายตา ไปรอบๆบริเวณ อะได้การ เจอเป้าหมายแระ คนขับรถจอดรถตรงหน้าห้องน้ำ แถมนอนเล่นในรถ
ซะด้วย

ผมรีบลากลับ ก่อนลากลับ ผมบอกแกว่าขออนุญาตเข้าห้องน้ำแล้วไปเลยนะครับปวดท้องอย่างแรง แกโอเค แล้ว
ไม่ได้สนใจผมอีก ได้การ ผมเดินไปที่รถทำท่า เปิดประตูแล้วหยิบทิชชู่ ติดมือมา พร้อม กระทิงแดง 2 ขวด เอา
กระทิงแดงไปไหน ไปทำอะไร

ผมเอากระทิงแดง 2 ขวดเดินไปหาคนขับรถห้องเย็นงะ บอกเค้าว่าขอบคุณนะพี่ ที่อุตส่าห์ขับรถ ตั้งไกลเพื่อเอา
ปลาคุณภาพดีไปให้ผมยัน กทม ไม่มีไรจะตอบแทนน้ำใจพี่นอกจากกระทิงแดง 2 ขวด คนขับรถทำหน้างงๆ เค้า
ไม่เข้าใจที่เราพูดหรือเนี่ย อะได้การถามเลย ปริกีมานอ แปลว่ามาจากไหน ครับ อ่อ คราวนี้พยักหน้าแหะ ผมทัก
เป็นภาษามาเลย์ สงสัยละสิ ผมพูดยาวี ได้ไง ผมเป็นคนใต้หรือ ป่าวเลยไม่มีเชื้อ ตจว แม้กระทั่งกระจึ๋งนึง กทม
ล้านเปอร์เซนต์ อันนี้ไว้อธิบายตอน ปัญหาภาคใต้ อีกเรื่องนึงไม่เกี่ยวกับปลาทู

ต่อครับเค้าตอบเป็นภาษามาลายู ว่ามาจากมาเลย์ ผมโต้ตอบเค้าโดยใช้ภาษามาเลย์ ลืมบอกไปนายจิม พูดได้ 5
ภาษางะ ได้การละ ผมถามต่อไปไม่หยุดนิ่ง ตาก็ดูด้วยว่ามีใครแอบมองป่าว พี่อยู่ที่ไหนนะ ของมาเลย์ เค้าตอบว่า
อยู่ที่เคดดาร์นั่นแหละ ผมบอกว่าเที่ยวหน้าผมไปเที่ยว พี่พาผมไปเที่ยวด้วยนะ ว่าแล้วผมก้ขอเบอร์โทร พร้อมแลก
เบอร์โทร กับเค้า เสร็จโก๋ ไป 1โปรเซส จากนั้นรีบชะแวบไปเลย

ผมขับรถต่อมาที่ ตรัง พอคนที่กันตังเห็นผมเบือนหน้าหนี อ้ายหยา เป็นไรของเค้าละเนี่ย ต้องมาสำรวจ ฟามหล่อ
ของนายจิมสะหน่อย แล้วก็มองรอบตัว มองไปที่รถ อ้ายหยา ฉิกหาย แล้วกู ผมลืมแคะสติกเกอร์ พ่อแม่จูงลูก ออก
พี่น้องคงงง ละสิมันเกี่ยวไรกัน สติคเกอร์ อันนั้น เป็นโลโก้ ของพรรคประชากรไทย ของท่านสมัคร อ้ายหยา
คู่ปรับนายหัวชวนนะเนี่ย ถิ่นเค้าสะด้วย เกือบซวยไหมละกู ไม่รอบคอบเอาเลย เสร็จสับ รีบแกะออกทันใด แล้ว
ขับรถมาที่บ้านบากัน กระบี่ ตรงแยก สุดสายขนอมกระบี่ ตรงนั้น เมื่อก่อนยังไม่เป็นแยก ที่นั่นมีหมู่บ้าน
ชาวประมงขนาดใหญ่ ผมเลี้ยวขวับเข้าไปทันใด ไปคุยๆหาข้อมูล ปลาที่นี่สวยดีแหะ ตามเป้าหมายเลย แต่
เนื่องจากเดือนสว่างอยู่ปลามันน้อย ก็คุยเรื่องราคา ถามเค้าใช้หลัก 5 W 1H

เจอเจ้าถิ่น
--------------
ขับรถ ออกมา ไม่ถึงปากทางดี เสียงดัง ปัง.... ปัง....อ้ายหยายางกูแตกป่าวเนี่ย จอดรถลงดู เวง สิ มีมอร์ไซค์ ขี่ตาม
ตูดมาถือ 11 มม สะด้วย แหลงใต้ ทองแดง เชียว ซื้อปลาหดาย แต่เอาปายม่ายหดาย อย่ามาให้เห็นหน้าอีกละ
เย็นไว้ นายจิม พ่อสอนว่าอาวุธที่ดีที่สุด คือปากเราและนิ้วมือ อ้ายหยาสูตรไหนละเนี่ย....

ยกมือไหว้ทันใด อะอย่าพึ่งนายจิม คนแถวนั้นเค้าอิสลามเหมือนนายจิมนี่หว่า สลามเลย ได้การแหะ แล้วผมกล่าว
คำว่า มาอัฟ แปลว่าขออภัยและยกโทษให้ฉันด้วย เค้ามีทีท่าอ่อนลง ปืนในมือไม่ได้ชูแบบเมื่อกี้อีก ได้การเลยนาย
จิม ใช้ สูตร ทักกี้อีกแระ ทำยูเนี่ยนสินายจิม ในสมองสั่งงานเป็นออโตเมติค

พี่ครับ พี่รับซื้อปลาแถวนี้หรือครับเค้าตอบว่าใช่ พี่รับปลาแล้วพี่ไปส่งที่ไหน เค้าตาเขียวขึ้นมาอีก แหะปากพาจน
นะกู จะรู้ไปทำไม? นั้นคือคำตอบ พี่ ผมขอมาอัฟ อีกครั้งนะ ปากผมมันเป็นสะอย่างนี้แหละ คิดไรพูดไร ไม่เส
แสร้งนะพี่ ผมเป็นคนตรงเหมือนคนใต้ ครับ ขอมาอัฟจริงๆ ได้ทีแหะ เออ ที่หลังอย่าถามแบบนี้อีก แล้วเค้าก็บอก
ว่า เค้าเป็นคนรับซื้อ ถ้าผมไปซื้อเท่ากับไปตัดราคาเค้า ทำให้ คนเรือ รู้ว่าที่มาที่ไปราคาเท่าไหร่
ผมเลยบอกเค้าว่า ดีใจจังที่เป็นประสงค์ ของ อัลเลาะห์ ให้ผมมาได้เจอพี่ เอางี้ พี่ ไปส่งที่ไหน ผมไม่อยากทราบ
แล้ว เอาเป็นว่าพี่ไม่ต้องขับรถไกลให้เมื่อย ผมมารับผ่านมือพี่อีกที ผมให้พี่เพิ่มอีกโลละ 1 บาท โอเคมั้ย
อะได้การแหะ เค้าเริ่มติ้กต้อกในสมอง ตกลงน้อง น้องจะเอาปลาวันนี้เลยมั้ย ผมตอบว่ายังครับพี่ ผมแค่มาหา
ข้อมูลก่อนจะได้ไปคำนวนต้นทุน กำไรนะพี่ ก่อนลากลับไม่ลืมขอเบอร์โทรเอาไว้ 5555 นักเลงเสร็จโก๋ นายจิม
อีก ขอบคุณ ปะป๋า กะทักกี้ แหะ

เตรียมสู่ลู่ทางปลาทูแช่แข็ง
-------------------------
จากนั้นผมออกจากบ้านบากัน มาแวะที่อ่าวลึก เพื่อนเก่าสมัยเรียน เซนต์จอห์น ผมเรียนรุ่น 1 อีเลคโทรนิคส์นะ
ผมมาเล่าให้เพื่อนฟัง แล้วบอกปัญหาให้ทราบว่า เรามีปลาแล้ว ทำไงจะขนส่งได้ซื้อได้ ให้ผมมาวิ่งทุกเที่ยวไม่
ไหวแน่ๆ ลงหลุมก่อนแหงแซะ ไอ้เพื่อนผมมันทำสวนยางนะ มีเวลาว่างเยอะ ผมก็เลยบอกว่าแก ช่วยเป็นStation
ให้หน่อยนะ แล้วฉันสอนวิธีนึ่งปลาให้แก จะได้เป็นอาชีพเสริม แล้วมีรายได้จากการรับซื้อปลาด้วย ส่วนที่แช่ปลา
ไม่ต้องห่วงเดี๋ยวลงทุนให้ ผมเช่าตุ้คอนเทนเนอร์ขนาดเล็ก ไว้เป็นตู้ Kept อุณหภูมิ แล้วสั่งทำตู้เย็นพิเศษให้ 2 ตู้
เพื่อ ฟรีซ ปลา ผมใช้หลักการเดียวกับ การย่อส่วนโรงงานปลาทูมาไว้กลางตลาดนะ แช่ได้ที 200โล ผมทำ2 ตู้
ฟรีซปลาเสร็จ ย้ายมาเข้าตู้ kept วางแผนเรียบร้อย อิอิ เพื่อนเราเสร็จโก๋ ไปอีกราย วันรุ่งขึ้นขับรถกลับสตูล ไปเอา
ปลาที่สั่งไว้กับกำนัน เอากลับ กทม ได้ปลามา 800 โล น้านคือจุดเริ่มต้นของการค้าปลา ฟรีซ ท่อนหน้าเดี๋ยวมาคุย
ว่าผมจะเอาปลาฟรีซ มาขายใครที่ละ 1 คัน 10 ล้อ แล้วได้กำไรเท่าไหร่ ต่อ เที่ยว

ปล.
ท่านที่จะนึ่งปลาทานเอง ดีที่สุดครับเพราะเราล้างสะอาด โรงปลาทุนึ่ง เค้าไม่ยอมทิ้งน้ำที่ต้ม ขี้เหนียวนะ ขี้เหนียว
เกลือ ฉะนั้นปลาเลยเค็มและคาว เค้าเอาน้ำที่ต้มไปทำน้ำปลาเทียม และเอาไส้ปลาที่ควักมาทำยำไตปลาขาย
เราต้มเองไม่ต้องซีเรียส เรื่องท้องปลาจะแตก หักหัวทิ้งเลยก็ได้ง่ายดี ต้มลงในน้ำเกลือเดือดจัด 3 นาที พอ ย้ำ แค่
นั้นเพราะต้มนานกว่านี้เนื้อปลาแข็งครับ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น