วันอังคารที่ 16 ตุลาคม พ.ศ. 2555

จากเจ็กโบ้ขายปลาทูนึ่งตามตลาดนัด กลายเป็น ผู้นำเข้าปลาทูแช่แข็ง (ตอนที่2)

ตอนที่ 2 ตะลุยตามตลาดนัดขอบ่นก่อน
จากสูตรการทำปลาทูนึ่งของผมเอง สูตรการทำน้ำพริกของท่าน 5โหล สูตรการทำกิมจิ ของท่านปลาแดก แล้ว ก็ตามด้วยของอาหย่อย ผัดผักบุ้ง จากลุงอิ่นคำ เอ้อเหอ ใครเอาไปประกอบวิชาชีพ ก็พอกล้อมแกล้มในช่วงวิกฤต ที่ตกสะเก็ด

หาที่ปล่อยซิ
ทำเสร็จแล้ว เป็นแล้วจะออกตลาดอย่างไรหว่า มึนตรึบ ถ้าเป็นแฟนคลับทักกี้ ต้องคิดแบบทักกี้ ชิมิ เอาตัวอย่างของผมไปใช้ก็ได้ไม่คิดค่าลิขสิทธ์ เพราะผมก็ไปลอก จากทักกี้อีกที ถ้าจะจ่ายคงต้องไปจ่าย ให้ทักกี้กระมัง
หลังจากการคิดค้นสูตร ปลาทูนึ่ง สูตรไร้เทียมทาน ได้เป็นที่สำเร็จ ผมก็มานั่งคิด และพูดกับตนเองว่า กูจะเอาออกไปขายตลาด ที่เป็นตลาดจริงๆได้ไงหว่า เกิดมาจากท้องพ่อท้องแม่ไม่เคยเป็นพ่อค้าแม่ค้าตลาดสะด้วย ติ้ก ต้อก ติ้กต้อก

อะ...ตายเป็นตาย หน้าด้านได้ อายอดวุ๊ย ว่าแล้วมิรอช้า ดีเดย์ เที่ยงคืน พอดิบพอดี ไปซื้อปลาทันใด กลับมานึ่งปลาตอนตี 3 จัดแจงนึ่งปลาทู ปาดเหงื่อ ไป 100 หยด ก็ตี 4 กว่า จัดแจงเอาเข่งปลาทูน้อยใหญ่ ซอยไซส์ และขนาด ตามหลักการ 4 P ที่ร่ำเรียนมา ยัดใส่ เข่งใหญ่หรือ หลัว ตามภาษาชาวบ้าน บรรจุ ได้ ทั้งหมด 140 เข่ง เสร็จแล้วก็แบกขึ้นรถ ห้อตระบึง ไปหน้า โรงพยาบาลพระนั่งเกล้า ตรงนั้นมีตลาดริมฟุตปาท ชื่อว่าตลาดสายหยุด ที่เรียกว่าสายหยุด เพราะเค้าจะเริ่มกัน ตอน ตี 5 พอ 9 โมงเช้าตลาดก็วายแล้ว เอาละหว่าที่แน่นไปหมด มีเจ้าที่สะด้วย เดี๋ยวพวกเอาไม้มาตีกบาลเป็นแน่แท้ เราไม่มีที่วางทำไงดี .......ติ้กต้อก

อะได้การแระ เราต้องคิดแบบทักกี้ รุกพื้นที่ก่อนถอยทีหลังก็ได้วะ ว่าแล้วก็รีบจัดแจง คิดก่อนทำก่อนได้เปรียบวุ๊ย ลากหลัวที่บรรจุปลาทูน้อยใหญ่ลงมาทั้งหลัว วางมันตรงที่ว่างสัก 1 ตารางเมตรนั่นแหละ แหกปากตระโกนขาย ไม่ถึง 10 นาที มีเสียงตะโกน เฮ้ย!.....ไอ้หนู นั่นมันที่ของข้านี่หว่า....เอ็งมาวางได้ไง เอาละซิเวงมาหากูแล้วเชียว ผมบ่นกะตนเอง

เย็นไว้โยม เราเป็นฝ่าย ผิด ......ใช้สมองจนน้ำลายเปียกกบาล อ้อ ได้ที นึกได้แระ 10 นิ้วมือพนมกร ตีหน้าเศร้าเล่าความเท็จ (มีจริง ครึ่งนึง) พูดเสียงดังๆ แต่แฝงไว้ด้วยความไร้เดียงสา พี่ครับ.. ผมขอโทษครับ ผมไม่รู้จริงๆว่ามีเจ้าของ ผมเห็นมันว่างอยู่ ผมก็เลยมาวาง ผมตกงาน ลูกเมีย ไม่มีข้าวสารจะกรอกหม้อ นี่ต้องไปกู้นอกระบบ ร้อยละ 20 มา ผมไม่รู้ว่าจะขายตรงไหน ก็วางไปก่อน ขอโทษจริงๆครับ ถ้าผมไม่ได้ขายวันนี้ ผมไม่รู้จะไปขายที่ไหน ไม่รู้จะเอาตังค์ที่ไหน ไปให้เค้า เดี๋ยวนายทุนมากระทืบผมตาย ว่าแล้วก็ทำหน้าแอบแบ้ว น้ำตาคลอ
เอ่อ....เอางี้ เจ้าของที่บอกผม ถ้าข้าให้เอ็งตั้งขายแล้ว ข้าจะขายได้ไง ( พี่เค้าขายผัก ) เอ็งฝากข้าฯ ขายไหม เอามา 20 เข่ง ก่อน เดี๋ยวขายได้ข้าฯ เก็บตังค์ไว้ให้ ส่วนเอ็งก็ลากหลัวปลาทู ไปไกลจากข้าหน่อย ลากไปขายไป ครับๆๆพี่ ตกลงครับขอบคุณพี่มาก พี่ขาย 20 เข่งผมให้กำไรพี่ 4เข่ง พี่เอาใบตองกะ กระดาษหนังสือพิมพ์ ที่ผมตัดไว้เอาไปห่อด้วย ผมแถมให้


ว่าแล้วผมก็ลากหลัวไป แหกปากร้องเร่ไป สัก ชั่วโมงกว่าๆ มีเด็กรุ่นกระทงคนนึง วิ่งเลิ่กหลั่กมาหาผม แล้วบอกว่า พี่ครับ พ่อ ผมที่ขายผักให้มาเอาปลาทู อีก 30 เข่ง ปลาทูพี่ขายดี นะพี่ ผมรีบจัดแจงให้ทันใด จากนั้นผมก็ขายของผมไปเรื่อยๆแหกปากไปลากหลัวปลาทุไป เจอที่ว่างแหมะ เจ้าของที่มาเผ่น ทำอย่างนี้จน 9 โมงเช้าแหม เวลาวิ่งไวอย่างจรวด และแล้วผมก็ขายไปได้ 70 เข่ง สรุปวันนี้ผมขายที่ตลาดนี้ได้ 120 เข่งรวมพี่พ่อค้าผักที่เค้าขายด้วย 50 เข่ง เหลืออีก 20 เข่ง ทำไงดีหว่า ของเหลือเสียดายเงินทั้งนั้น

หาที่ปล่อยอีก
คิดปุ๊บทำปั๊บ สไตล์ทักกี้ คิดแล้วไม่ทำคิดทำไม ผมไปหาพี่ที่ขายผัก ไปเก็บตังค์ แล้วถามพี่ครับ ผักพี่เหลือ พี่ทำอย่างไรครับ ผมได้คำตอบว่า ข้าฯมีตลาดนัดเย็น เอาไปเล ต่อที่นั่นได้ สายตาผมลุกวาวทันใด ผมไม่รอช้ารุกต่อทันที แล้วพี่ไปขายที่ไหนละครับ ค่าที่แพงหรือป่าวครับ ผมได้คำตอบว่า ข้าฯไปขายที่ ท่าอิฐ เอ็งจะตามข้าฯไปขายด้วยไหม หัวหน้าตลาดนัดซี้กันเดี๋ยวข้าฯ แนะนำให้ ค่าที่ไม่แพง 20 บาท ถ้าเอ็งใช้ไฟด้วย เพิ่มดวงละ 20 บาท ...ป้าด นายจิม เอ็งนี่พระเจ้าช่วยจริงๆ ไม่รอช้ารีบเซย์เยส ทันควัน และแล้วผมก็มีที่ขายที่ตลาดนัดอีกที่นึง เอิ้กๆๆแฮปปี้จังวุ๊ย ช่วงปี 40 วิกฤต ผมไม่กลัว แต่ผมกลัวความขี้เกียจ มากกว่า เดี๋ยวไว้มาโม้ตอนต่อไปนะพี่น้อง บ้ายบาย.....จุฟฟฟฟ

ผมทำอย่างงี้ ได้ สามวันที่ตลาดสายหยุด จนแม่ค้าที่นั่นสงสารและเห็นความตั้งใจของผม มีพี่คนนึง ขายกระเทียม พริกแห้ง แผงของเค้ายาวมาก ประมาณ 5 เมตร เค้ามาบอกว่า เฮ้ย.....ไอ้หนู เอ็งมาลาก งี้ ลูกค้าเค้าจะจำเอ็งได้หรือ ว่าเอ็งขายตรงไหนมามะ ข้าฯแบ่งแผงให้เอ็ง ล็อคนึง เสียค่าเช่าเองนะวุ๊ย แต่เอ็งเสียกะข้านะ เดี๋ยวเทศบาล มันไม่รู้ว่าเอ็งเป็นใคร เยสเซอร์ รีบตอบทันใด ค่าเช่าก็คือค่าขยะแหละพี่น้อง 20 บาทเอง 5555 ดีใจจัง ได้เป็นเจ้ามีศาลกะเขาสักที และแล้วผมก็ปักหลัก ตรงนั้นขาย อีกด้านนึงก็ส่ง พี่ที่ขายผัก แกขยับออร์เดอร์มาที่ 100 เข่งต่อวัน ส่วนผมขายได้วัน 200 เข่ง สำหรับตลาดหน้าโรงพยาบาลพระนั่งเกล้า

มาต่อที่ตลาดนัดท่าอิฐ กันนะครับ หลังจากที่ผมใจง่ายตามพี่ที่ขายผักไปที่ตลาดท่าอิฐ ผมวิ่งไปเอาปลามานึ่งเพิ่มเติม โดยคราวนี้ผมคิดว่าไม่น่าจะลงของมาก ครึ่งนึงของตอนเช้าก็พอ คือ 60 เข่ง+20เข่งตอนเช้า แต่ปลาบนแผงผมที่ขายที่ท่าอิฐ มีปลาเพียง 60 เข่ง อะอะ นายจิม เล่นไรของมันหว่ามุกเยอะนะไอ้นี่

ผมเอาปลา 20 เข่งถอดออกจากเข่งเอามาเรียงในกระจาดเป็นตัวๆ ผมขายตัวละ 3 บาท 4 ตัว 10 บาท ใครซื้อปลาในเข่งผม สามเข่ง ผมแถมปลาอันนี้ให้ 4 ตัว เอิ้ก ๆๆๆวิธี คิด แบบ 4 P มาอีกแระ ทักกี้ สอนงะ ถ้าผมเอามาเล ขายก็เสียของ และเสียคุณภาพ เพราะปลาเช้ามันไม่ใหม่ แล้ว และจะเป็นข้อเปรียบเทียบกับปลาใหม่ที่วางขาย คราวหน้า ราคาตกแน่ ตกทั้งกระดาน ถ้าผมเอามาแถมดื้อๆลูกค้าได้ใจอีก อิอิ สันดานคนไทย ชอบ ดีๆๆถูกๆๆ เร็วๆๆ จ่ายเงินช้าๆ

ระหว่างที่ขายไป สมองอันน้อยนิดของนายจิมก็แล่นปรู้ดๆๆทำไงเราจะได้ขายต่อเนื่องหว่า ตีซี้ซินายจิม หัวหน้าตลาดเดินมาเก็บตังค์ ไม่รอช้า ยกมือไหว้ พี่ครับ ผมขอเป็นลูกน้องพี่สักคนนะครับ พี่ไปไหนผมไปด้วย พี่หัวหน้าตลาดตอบว่า น้องตามพี่ได้นะแต่ต้องทำใจ เพราะพี่ขาย จันทร์ พุธ ศุกร์ มีอย่างที่ไหน ที่คนอย่างนายจิมจะ โน เวลาได้โอกาสก็รีบเลยขอบคุณครับพี่ แล้วผมก็ขอตารางการเดินสายมาจากหัวหน้าตลาด ยังมีต่อขอเบรค ให้ อีหนูนวดนิ้วแป๊ป

ยังไม่พอ
อ้าว... ขายได้แค่ จ. พ. ศ. เอง อย่างงี้ ตูจะขายได้ 7 วันไหมเนี่ย ทำไงหว่า ความงกเริ่มถามหาแล้วพี่น้อง และแล้วก็งัด วิธีมารมาใช้ อันนี้ทักกี้ กะ ภาษาโปรดักชั่น สอนไว้เผอิญได้เป็นศิษย์ ร่วมสถาบันกะนัดวุมิ สามเกลอ งะ ใช้กระบวนยุทธ ต่อยหน้า กระทุ้งท้อง เตะตัดขา พอหลังจากคุยกะพี่ หัวหน้าตลาดนัดเสร็จ ก็ติ้กต้อก เราต้องหาข้อมูล จากเพื่อนที่ขายด้วยกันในตลาด ว่าแล้วก็สอดสายตา ใครพอที่จะมี อารมย์งกเหมือนผมบ้าง อะนะ เจอแว้ว พ่อค้าคนนึง แกมี ลูก เมีย พร้อมลูกจ้างมาขาย (แกขายของพวก จิปาถะ มีสร้อย กิ้บ ของสำเพ็งว่างั้น) อย่างงี้แสดงว่าความรับผิดชอบสูง หยุดไม่ได้ กินทุนตายแน่ๆค่าจ้างต้องจ่ายลูกน้อง หยุดแล้วเอาเงินที่ไหนมาจ่าย แม่น บ่ พี่น้อง

ไม่รอช้า รีบเดินไปหาพี่เค้า พร้อม ปลาทู 2 เข่ง ยกมือไหว้ บอกเค้าว่าพี่ครับลูกพี่น่ารักจังมาช่วยกันทำมาหากิน อย่างงี้พี่หยุด ไม่ได้ สิ ผมเป็นน้องใหม่ที่นี่ ฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะครับ เฮ้ย...มาฝากตงฝากตัวอะไรกัน ผมก็คนค้าขายคนนึงเท่านั้น ช่ายคุณ ผมหยุดไม่ได้ อะ เข้าล้อคตา จิม เสร็จโก๋.....ผมพูดในใจอีก ผมหยุดไหนจะค่าบ้าน ค่ารถ ลุกน้องอีก ลูกกำลังโตนะคุณ พอผมฟังดังนั้น ผมรีบเอาปลาทูที่เตรียม ยื่นให้ พี่เค้าแล้วบอกว่าพี่ครับ อย่าว่าอย่างนู้น อย่างนี้เลย ผมเห็นเด็กๆแล้วเอ็นดูพี่รับปลาทูผมไปเถอะ (มุกเดียว กะ ภรทิพย์)

ต่อจากนั้นผมก็ไม่รอช้ายิงคำถามต่อ พี่ครับแล้วอย่างงี้พี่ทำเช่นไรละครับ ผมได้คำตอบว่า ผมมีอีกตลาดนัดนึงที่วัดเฉลิมพระเกียรติ เค้าขาย อังคาร พฤหัส เสาร์ นะ ส่วนอาทิตย์ ผมไม่ได้ขายต้องไปเตรียมของ ต้องไปสำเพ็ง ผมรีบปิดการขาย โดยการถามว่า พี่ครับช่วยแนะนำ หัวหน้าตลาดให้หน่อย นะครับ ผมขอตามพี่ไปด้วยคนนะครับ เค้าบอกได้เลยน้องเพราะ นัด นี้ แม่ค้าไม่เยอะ หัวหน้าเค้าหาแนวร่วมอยู่ 555555 พระเจ้าจอร์ช มันยอดมาก นาย จิม ได้ ขาย เกือบ ครบอาทิตย์ แล้ว เดี๋ยวมาต่อครับ แป๊ปนึง พักกินน้ำก่อง

เหล็กต้องตีตอนร้อน
ต่อๆๆๆ เช้าขาย สายหยุด เย็นเดินสาย ตลาดนัด ทำอย่างงี้เกือบเดือน ยอดนึ่งปลา ผมทะลุเป้าจากนึ่งวันละ 40 โล กลายเป็นนึ่งวันละ 200 กว่าโล เหนื่อยเจงๆๆ แต่พักไม่ได้ พักได้ไง เหล็กต้องตีตอนร้อน ชิมิ ชื่อเสียงนายจิม เริ่มโด่งดังคุณภาพสินค้า แจ๋วแหวว จนมีลูกค้าย่านบางบัวทอง ท่าอิฐ นนท์ ตั้งฉายา ผมว่า เจ็กโบ้ ขายปลาทู พอมีเงินใช้มากมาย ต่อวันกำไร ผมวันละ 5 พันกว่าบาท เริ่มหันมามอง ครอบครัวแล้ว เมียเราเหนื่อยกับเรามามาก เราต้องเพิ่มศักยภาพของเมีย ยกให้เมียเป็นเถ้าแก่ อีกแขนงนึงดีกว่า เพื่อจะได้ บาลานซิ่งมาร์เก็ต ลดความเสี่ยง ขยายกิจการ อ๊ะอ๊ะ อย่าใจร้อน ไม่ใช่ปลาทูนึ่งนะครับ แต่เป็นน้ำพริกปลาทู ตำสด ๆตรงนั้น ขายพร้อมผักลวก แล้วกำขาย เมียผมฝีมือตำน้ำพริกสุดยอด พวกอิสลามท่าอิฐ ถามหาเชียวเวลามีงานบุญ ผักลวก หรือ ก็ซื้อผักที่พี่ คนตลาดสายหยุดนั่นแหละ พี่เค้าเวลามี ผักเหลือ ผมก็ซื้อ มาลวก ถ้าผักไม่สวย ผมก็เอามาดอง แล้วกุ่มขาย(ไม่เข้าใจศัพท์คำนี้เหมือนกันนะครับ) น้าน วิสัยทัศน์ ทักกี้ อีกแระ ทำยูเนี่ยน ผูกขากันเดิน

เรื่องน้ำพริก พักไว้ก่อน เดี๋ยวนอกเรื่องบานตะเกียง วงจรชีวิต การนอน และทำงานของผม คือ ไปเอาปลา ตอน 4ทุ่ม ถึงบ้าน 5 ทุ่มครึ่ง ตื่น ตี 3 นึ่งปลา มาขายสายหยุด จน 9 โมงเช้า ไปเอาปลา มาถึงบ้าน 11 โมง นอนตื่นนึง ตอนบ่ายสอง มาทำปลา ออกตลาดนัด 5 โมงเย็น ขายถึง 2 ทุ่ม เหนื่อยจริงๆ แต่มองหน้าลูกเมียแล้วหายเหนื่อยเป็นปลิดทิ้ง

ต้องเป็นเจ้ามีศาลซิ
ต่อๆๆ เดี๋ยวเขียน คอลัมนี้เสร็จขอตัวหม่ำก่อน 40 นาทีนะครับถ้ามันใกล้หลุดหน้าผม ขออนุญาต จะตั้งกระทุ้ใหม่ คอยตามชม ละกัน มีเด็ด สะระตี่ กว่านี้อีก

หลังจากขายตลาดนัด ได้ 3 เดือน พอมีเงินเก็บ หลักแสน เห็นไหม ความขยัน ไม่เคยทำให้เราอดตาย ผมเริ่มมานั่งคิด ตูจะเป็นเจ้าไม่มีศาลอย่างงี้ ตลอดไปไม่ได้แน่ๆ บ่นกะตนเองอีก ผมขออินโทรนิดนึง ปกติก่อนที่จะมาขายปลาทู ผมเป็นนักธุรกิจ ผมถือคติว่าต้องปั้นหน้าใส่กระจกเงาทุกเช้าที่เข้าห้องน้ำแล้วหัดกระแดะพูด ประโยคในหมากหรือเกมส์ในวันนั้นๆ ผมเริ่มสอดส่ายสายตา และเปิดความคิด ต้องหาแผงที่เป็นตัวเป็นต้น จะได้ สร้างไอดอล และพุช อิมเมจ ลงในสมองของลูกค้า

ผมเดินสายสำรวจตลาด วางมือเรื่องปลาทูตลาดนัด บอกว่า ป่วย 2 วัน ไปทั่วจังหวัดนนท์ ดูรสนิยม การบริโภค วัฒนะรรมการซื้อของของคนในพื้นที่ ผลสรุป คือผมมาได้แผงที่ตลาดปากเกร็ด แต่มีข้อจำกัดว่า แผงนั้นอยู่กลางตลาด หน้าตลาดมีร้านปลาทูนึ่งสัก 20 กว่าร้าน กว่าลูกค้าจะไปถึงมืเรา สงสัยโดนดักหน้าดักหลังหมดแน่นอน ทำไงดีหว่า ติ้กต้อก ติ้กต้อก ก็เลยต้องงัด ทฤษฎี ทักกี้มาใช้อีก ว่างั้นเชียว ว่า
-โปรดัคชั่นนั้น ต้องไม่มีใครเหมือน เราต้องขายความแตกต่าง
-สินค้าที่เราขาย ต้องมีอายุ เอกซาพาย (Expire) ไม่ยาว
-ในใจลึกๆของผู้บริโภค ต้องการรูปแบบไหนใน สินค้าของเรา
- สินค้านั้นต้อง ครอบคลุม ถึงทุกชนชั้น กินหัวกินหางกินกลางตลอดตัวว่างั้น
- ราคาสินค้า ต้องทำให้ ผุ้บริโภคคิดว่าเราไม่ได้เอาเปรียบเค้าจนเกินไป
หมายเหตุ การทำธุรกิจ คือการเอาเปรียบ ทั้งนั้น เพียงแต่มากน้อยหรือเปล่า คนที่ติดกับธุรกิจเรา คือ คนที่คิดว่าเค้าได้เปรียบเรา นั่นคือ เคล็ดลับ เคล็ดมาก เดี๋ยวใครจะเป็นสปอนเซ่อร์ บัตรนวดให้ด้วยเด้อ
ถัดไป โปรดติดตามว่า ผมจะมีกลยุทธ ที่จะชนะ คู่แข่งทางการค้าอย่างไร โดยไม่ใช้การตัดราคา การตัดราคาของง่าย นาย จิม ไม่ทำแน่นอน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น