วันพุธที่ 17 ตุลาคม พ.ศ. 2555

แนวคิดแทรคติคอย่างเอาจริงเอาจังของนายJIMBO ตอนที่ 17

**********************************************
(14)Quando …Quando กับ ชีวิตตะลอนใต้ของ นาย JIMBO
**********************************************
เสียงนาฬิกาปลุก กริ๊ง......ตอน 22.30 น.สะดุ้งตื่น อ้ายหยา เสื้อผ้ายังไม่ได้เปลี่ยน น้ำยังไม่อาบ อะถอดก่อน แต่
ไม่ลืมเอาเศษเหรียญ เทลงใส่ขวด อิอิ แข่ง กะเอลี่ ว่าใครเต็มก่อนกัน เอลี่ เอลี่ Wake up ผมตะโกน เคาะประตู
ห้องมันเปิดผลั้ว หนอย ไอ้นี่ แต่งตัวเรียบร้อยโรงเรียนจีน ผมไม่วายเหลือบดูขวดเหรียญของมัน ค่อนนึงละ
หนอยๆจะแซงผมหรือไงเนี่ย ผมบอกมันว่าขอเวลา 15 นาที

จัดแจงอาบน้ำ อาบท่า เสร็จ เอาน้ำหอม แชลแนล No. 5 ฉีดสักหน่อย ได้เวลา เพลย์บอย สองหน่อ ออกไปแรด
กัน เรานัดเพื่อนจากบริษัทซีเมนต์ อีก 2 ท่าน ไปเจอที่ผับแห่งหนึ่งในหาดใหญ่ ผับนี้เป็นผับเล่นเพลงลาติน....มัน
ก็หนีบของมันไปขวดนึง ผมก็หนีบของผมไปขวดนึง สปอนเซ่อร์ไง
เวลาผมไปร้านอาหาร ต่างจังหวัดผมชอบหันหลังเข้าหาเวที หันหน้าออกหน้าร้าน พี่น้องทราบไหมว่าทำไม ไม่
บอก ติ๊ก...ต๊อก... คิดเองมั่งเดะ นั้นคือสัญชาติญาณของผม ในการรักษาความปลอดภัยให้ตนเองและพวก ผมเคยมี
ประสบการณ์มาแล้ว ถ้ารายละเอียด ต้องตามอ่านอีกปีหน้านะ อิอิ.. นักดนตรี หนอยเปิดงานด้วยเพลง She’s
one สะด้วย เพลงโปรด เพลงนี้ ผมเรียกขำๆกับเพื่อนว่า เพลงฉีกทวาร เล่นได้แน่นดีครับมีแต่คนทำงานไม่เสียว
หัวเกิดเวลาเหยียบเท้ากันขึ้นมา

น้อง.......ผมเรียกเด็กเสริฟมา ขอปากกาหน่อยจิ ผมจดยิกๆๆ ขอเพลง เพลงอะไรเอ่ย Quando Quando ไง
เพลงนี้ แม่ของผมร้องให้ฟัง ตอนเด็กๆ ร้องหลังจากเพลง Whatever will be will be นะ เด็กเสริฟหายไป
พักนึง ผมได้ยินเสียงปากาดจาก นักร้องชายท่านหนึ่งบอกว่า พี่ครับ ผมร้องไม่ได้ครับเพลงมันเก่า แต่เบรคหน้ามี
นักร้องอีกท่านหนึ่งเดวผมจะถามให้ว่าร้องได้หรือเปล่า พอดีนักร้องท่านนั้น นั่งที่บาร์ ใกล้ได้ยิน บอกว่าหนูร้อง
ได้พี่ ผมก็ไม่สนใจอีก มาเฮ....กะเพื่อนๆ

พอถึงครานักร้องท่านนี้ ขึ้นร้อง ผมไม่ได้สนใจว่านักร้องชื่ออะไร หน้าผมก็ไม่มอง หันหลังให้เวที อิอิ ผมไม่ใช่
พวกตัวกินไก่นะ เซง ผู้หญิง เข็ดกับแม่ของลูกมาเยอะ คิดถึงแต่หน้าลูกอย่างเดว พอเริ่มร้องไปสัก สองท่อน อืม....
ร้องได้ดี ดนตรีเล่นแน่นสะด้วย นักร้องท่านนี้เสียงดีสะด้วย น้อง.....ผมเรียกเด็กเสริฟ อีก ขอเพลง Besame
moushour อั้นแน่ร้องได้อีก ทึ่งมาก เลย บอกเด็กเสริฟ เอาทิปไปให้ 200 บาท ผมก็ไม่มองหน้าอีก ผมติดใจ
เสียงงะ ไม่ได้ติดใจหน้าแต่อย่างใด

นั่งจนผับเลิก นักร้องมาที่โต๊ะมาขอบคุณ และแนะนำตนเองว่าชื่ออะไร นายจิมเก็กสุดฤทธิ์เช่นกัน มะสนใจ ผม
นัดเพื่อนๆกันต่อว่าพรุ่งนี้เราไปตะลอนที่อื่นกันใหม่นะ พรุ่งนี้ออกแต่หัวค่ำ ไปหาดินเน่อร์กัน เอาร้านที่ไม่ต้อง
หนวกหู จะได้คุยงานกันด้วย ส่วนวันนี้เหนื่อยแล้ว ขอไปนอนก่อน

วันรุ่งขึ้นก็ไปทำงานตามปกติ ตะลอนทั้งวันกลับมาคอนโด ก็นู่นแล้ว 6 โมงเย็น รีบเทเหรียญลงขวด เอลี่ ก็เท ผม
ก็เท แต่ตัวเลย นัดกะเพื่อนๆแล้วนะ ไปร้านชื่อ ร้านมะบอก เดวรู้อิอิ ร้านนี้ไฟสว่าง ดีบรรยากาศเหมาะคุยเรื่องงานกัน

แอ๊ด.....เสียงผมผลักประตูบานอลูมิเนียมเข้าไป ร้านนี้เป็นแนวขวางนะ เวทีและนักร้องอยู่ทางด้านขวามือ นักร้อง
หญิงท่านนึงกำลังร้องเพลง โดยมีอีเลคโทนตัวเดียวเอง นักร้องท่านนั้นยิ้มให้ผมกว้างเลยแต่ยิ้มให้ผมคนเดียว ผม
ไม่สนใจอีกพาเพื่อนเดินไปมุมซ้ายมือท้ายสุดของห้อง สั่งอาหารค่ำมากินกัน เริ่มคุยเรื่องงานวางแผนที่จะแบ่ง
พื้นที่กันซ่อมไซท์วิ่งตะลอนอย่างงี้ไม่สนุกแน่วันนึงขับรถ 4-500 กิโลเมตร

คุยสักพักเสียงเพลงหยุดลง พักเดียวนักร้องท่านนั้นเดินมาที่โต๊ะ มานั่งข้างๆผม ผมบอกว่าคุ้นๆหน้านะ ขอโทษนะ
ครับเคยเจอกันที่ไหนหรือครับ นักร้องยิ้มนิดหน่อย พร้อมเบะปากเหมือนแกล้งงอล ไม่ตอบ แต่เพื่อนผมที่อยู่
บริษัท ซีเมนต์ ตอบว่า พี่จิม พี่จำไม่ได้หรือ จำไรฟะ ผมถาม น้องเค้าร้องเพลงเมื่อคืนที่ผับลาติน ไงพี่

คนที่พี่ขอเพลงแล้วเค้าร้องให้พี่ฟังไง ผมพยักหน้า แล้วผมบอก นักร้องหญิงท่านนั้นว่า พี่จิม ขอโทษครับ
ส่วนมากไปนั่งร้านไหนผมชอบฟังเพลงไม่ได้สังเกตุอะไรมากมาย น้าน นายจิม ปากม๋าน แล้วซิ ปากม๋าน คือ
หมา + หวาน นักร้องตัดพ้อว่า แหมแฟมิลี่แมนจัง ผมยิ้มมะตอบไรไม่สนใจอีกหันมาคุยกับเพื่อนๆต่อ

นักร้องท่านนั้นคงงอลจริงๆ พี่หนูขอตัวนะคะ เดวร้องอีกเบรคแล้วหนูจะกลับเลยค่ะ ครับ พี่อย่างไรถ้าไม่ลืม คืนนี้
ขอเชิญที่ร้านเดิมนะครับ พี่จิม..บอกว่าครับแต่ไม่รับปากนะ มาหาดใหญ่ก็อยาก ไปหลายๆที่นะครับ และแล้ว
นักร้องก็จากไป ผมก็เม้าท์แตกเรื่องงานกันต่อ ออกจากร้านนั้นก็ปา ไป 3 ทุ่ม ไปตะลอนกันต่อ ไปเทควุ้ยส์พวก
พากันไปเทคเลยยกก๊วนไป โอ้โห วันรุ่นเพียบ พวกแด้นซ์กันกระจาย

เพื่อนๆมันสั่งเบียร์มาเหยือกนึงผมหรอ สั่ง น้ำแอปเปิ้ลมาดื่ม เหยือกปกติแระ ใส่หลอดมา 4 หลอด ผมงง ทำไม
ไม่ใส่แก้วละ สาวของเพื่อนมันนัดเจอในเทคแห่งนั้น บอกว่าเบียร์ฉบับพิเศษ ผมถามว่ามันพิเศษอย่างไร สาวเจ้า
ตอบว่า มันแพง เบียร์ปกติเหยือกละ 180 นี่เหยือกละ 700 บาท ทำไมมันแพงจังละผมถาม สาวเจ้าบอกว่าพี่ต้อง
ลองดื่ม ดื่มแล้วสนุกละ ม่ายอะผมส่ายหัว

สาวของเพื่อนยิ้มแล้วก้มลงดูด เบียร์ เพื่อนๆก็ดูดกันคนละจ้วบ สองจ้วบ เหยือกแรกผ่านไป เหยือกสองตามมา
จ้วบ...จ้วบ....แหมเพื่อนผมคงมาวสิท่า แด้นซ์สั่นหัวกันดิ๊กๆ ผมนึกในใจ ไอ้พวกนี้มันไปเอาท่าแด้นซ์อันใหม่มา
แด้นซ์กันไงหว่า ส่วนสาวๆ เขย่าหัวเอาผมปิดหน้าแบบ แบล้ค ซับบ้าท เลยเชว ป้าดเพลงก็ไม่ได้มันส์ขนาดนั้น
ไหง เขย่ากระจาย

ผมสถิตย์ที่เทคแห่งนั้นจนเที่ยงคืน กลับวุ้ยส์พรรคพวก ง่วงละผมบอกเพื่อนดังนั้น ไปต่อสิพี่แหมกำลังติดลม อ้าว
..ไปก็ไป อย่าติดลมนานละ ผมบอกเพื่อน ไปไหนต่อกันละ เพื่อนบอกว่าไปร้านลาติน ดีก่าพี่ ที่น้านมีข้าวต้ม ด้วย
เออดี ผมตอบ ว่าแล้วผมก็บึ่งรถ ไป ณ บัดดล ระหว่างทาง ผมสังเกตุเพื่อนในรถ อีกสองหน่อ กะ 1 สาว มันนั่ง
ส่ายหัวดิ้กๆๆๆ มันส่ายทำหอกไรหว่าเพลงในรถผมก็เป็นเพลงยุค 80-90 มันมันส์อะไรกันหว่า

มาถึงร้านลาติน เปิดประตูแอดดดดด.....ยังไม่ทันเดินเข้าหมดก้วน หนอยแน่นักร้องบนเวที ประกาศเลย ยินดี
ต้อนรับ พี่จิม คนไม่มีแฟน อ้าว ไอ้นี่สงสัยอยากได้ทิป มั๊ง ผมนึกในใจ

แล้วมันรู้ชื่อเราได้ไงหว่า ผมก็ใช้สูตรเดิม นั่งหันหลังหาเวที สักพัก ก็ได้ยินเสียงนักร้องหญิงท่านหนึ่งร้องเพลง
Kiss me เฮ้ย..เสียงคุ้นๆละพวก ผมถามเพื่อนแต่ก็ไม่หันไปมอง แหมพี่ก็นักร้องคนเมื่อคืน กับคนที่เจอตอน
หัวค่ำไง เออ ลืม ไปละ ผมตอบเพื่อน โทษทีละ


นักร้องคนนั้นก็มานั่งที่โต๊ะผมอีกละมานั่งข้างๆ ผม มาทักทายอีก ผมก็ตอบตามมารยาท ไม่สนใจไรอีก ผมก็โม้กะ
เพื่อนๆไปเรื่อย นักร้องนั้นนั่งสักพัก คงงอลผมมั๊ง ผมไม่ได้คุยด้วยมีแต่เพื่อนๆผมทักทายคุยด้วย ขอตัวไปทักทาย
ลูกค้าโต๊ะอื่น ผมพยักหน้ายิ้มหวานๆให้ทีนึงตามมารยาท ผมนั่งจนผับเลิกแล้ว เปิดไฟสว่าง เช็คบิลเสร็จหมดไป 4
พันก่านะ ระหว่างรอเงินทอน

พอเด็กเสริฟเอาเงินทอนมาให้ผม ในแผ่นพับเช็คบิล มีโน้ตเล็กๆ ใบนึง ว่าพรุ่งนี้โทรหานะค่ะ อยากทานข้าวด้วย
ตอนกลางวัน แล้วก็เบอร์โทร xxx-xxx-xxxx เด็กเสริฟย้ำ บอกว่าพี่นักร้องคนนั้น เค้าบอกว่าให้พี่โทรหาให้ได้
ถ้าพี่โทร พี่เค้าให้ตังค์หนู 100 นึงนะ ผมพยักหน้า อือ ได้ จร้า
วันรุ่งขึ้น กริ๊งๆ ผมโทรไปหาน้องนักร้องคนนั้นตอน 11.00 น. สวัสดีครับ สะดวกทานข้าวที่ไหนดีละ น้องเค้า
บอกว่า sizzler ค่ะพี่ ที่ลีการ์เด้น นะพี่นะ เจอกันกี่โมงดีละ น้องเค้าบอกว่า เที่ยงครึ่งละกันค่ะ ได้ครับเดียวเจอ
กัน เที่ยงวันตามนัดผมไปเจอน้องเค้า เราแนะนำตัวกัน ทานข้าวไป ชีวิตน้องเค้าน่าสนใจ อย่างไร

มาเล่าต่อกันนะครับ น้องเค้าเป็นม่าย ลูกสาว 1 คน อยู่กับพ่อ และน้องสาว น้องสาวก็เป็นเด็กเสริฟในร้านนั้น
แหละ คนที่ยื่นเบอร์โทรให้ผมนะครับ พ่อกับแม่แยกทางกัน

ตัวเค้าเองต้องตื่น 7 โมงเช้าเพื่อหาข้าว หาปลาให้พ่อทาน ทำกับข้าวเองสะด้วย 9 โมงเช้า เป็นดีเจจัดรายการวิทยุ
ขายสปอตท์ จัดรายการยันบ่าย 3 โมงเย็น มาเปิดท้ายขายของ ที่หลัง บขส หาดใหญ่ ขายจน 1 ทุ่ม กลับบ้านนอน
ตื่น 3 ทุ่มครึ่ง แต่งตัวมาร้องเพลงตอน 5 ทุ่ม จน ถึง ตี 1 กลับบ้านไปดูลูกต่อ

ผมทึ่งเลย น่ารักมากชีวิตคนกลางคืนที่ต้องดูแลทั้งลูกทั้งพ่อ ทำงานตัวเป็นเกลียวหัวเป็นน๊อต ผมถามต่อว่า
สำเนียงทำไมพูดกลางชัดมากคงไม่ใช่คนที่นี้ เค้าตอบว่าใช่ หนูเป็นคน กทม ค่ะพี่ อยู่แถวรามอินทรานั้นแหละ
เรียนจบที่ ม.รังสิต

อ้าวมาเจอคนกทม. ด้วยกันสะแล้ว ผมถามว่าทำไมมาหากินตั้งไกล เค้าบอกว่า มากับสามี ทำงานด้วยกันนั่นแหละ
สามีทำงานบริษัทโฆษณา พอมาได้สักพักนึงสามีไปติดสาว แล้วเตลิดเลย ตนเองเลยต้องอยู่กับลูกปากกัดตีนถีบ
ว่างๆพี่ไปเยี่ยมที่แผงเปิดท้ายสิ หนูขายเสื้อผ้า มีแบรนด์ตนเองด้วย

น้องเค้ายิ้มบอกว่าอ๋อ... พี่ในเบียร์เหยือกนั้นเค้าผสมยานะพี่ ยาหัวส่าย หรือยาม่วง อ้าว แล้วทำไมต้องส่ายหัวด้วย
ผมถาม เค้าบอกว่า ยาหัวส่าย จริงคนเสพไม่ได้อยากส่ายหัวหรอก

แต่มันจะหนักหัว ต้องสะบัดๆ ถึงอาการดีขึ้น ทะนี้ถ้าอยู่เฉยๆมาสะบัดมันก็ตลกๆเลยเปิดเพลงดังๆ การส่ายถึง
หรอยนะพี่ แล้วที่พี่ไม่ดื่มแต่รู้สึกมึนหัวนะเพราะอะไร

เค้าบอกว่า เค้านิยมผสมยาพวกนี้ลงใน ฟร้อกกี้ แล้วฉีดใส่ช่องแอร์ เพื่อให้คนเที่ยวรู้สึกสนุกนะ พี่ อ้ายหยา มันเล่น
ขนาดนี้เชวนะ ว่าแล้วเราก็แยกกันตรงหน้าห้าง น้องเค้าดึงมือผมแล้วบอกว่า อย่าลืมเจอกันอีกนะพี่ โทรหาหนูได้
ตลอดเวลาค่ะพี่ ผมยิ้มให้แล้วบอกว่าครับ ความรู้สึกดีๆเริ่มมาแล้วละพี่น้อง

เย็นวันนั้นผมไปเดินตลาดเปิดท้าย ไปเดินหาซื้อของเผื่อมีอะไรต้องตาบ้าง ตลาดเบ้อเริ่มเลยครับ คนเอารถไปเปิด
ท้ายกันเป็นร้อยคันทีเดียว แล้วบนอาคารในร่มก็มีห้องเป็นแถวๆให้เช่าขายของ

ผมเดินเต๋ ไปมา อ้าว..มาเจออีกแระ หน้ามันเชียวเหมือนสาวมิสทีน บีบเหงื่อใส่ล้อจักรยานนะ ยืนขายของอยู่ง่วน
เชียว ผมทักทายเสร็จ น้องเค้ายิ้มให้ พร้อมเอามือปาดเหงื่อ น่ารักมากครับคนทำมาหากินผมชอบ ผมเลยเข้าไปยืน
ข้างๆตะโกนเอย ตบมือเรียกคนเอย ช่วยขายของให้นะ วิญญาณพ่อค้าตลาดนัดเข้าสิงนะ

ระหว่างที่ขาย ผมดูที่แบรนด์ที่น้องเค้าแปะอยู่ แบรนด์คุ้นๆตานะครับ แต่นึกไม่ออกว่าเคยเห็นที่ไหน อ้าวไม่
เป็นไร ช่วยน้องเค้าขายของดีกว่า ขายไปหยอกล้อกันไป สุขใจไปอีกอย่าง ไม่ได้เจอบรรยากาศแบบนี้นานแล้วนะ
นายจิม....หัวใจนายจิม..... นั้นชักสีชมพูระเรื่อแล้ว

ผมช่วยน้องเค้าขายของเสร็จ ก็ช่วยเก็บของใส่รถ น้องเค้าถามว่าพี่พักที่ไหน ผมบอกว่า พักที่คันทรี่โฮมนะ อ้อ
แล้วพี่อยู่กับใคร ผมบอกว่าอยู่กับบัดดี้ฟิลิปปินส์ อยู่กันสองหนุ่ม น้องเค้าถามว่าถ้าพี่อยู่ที่หาดใหญ่ แล้วไม่ได้ออน
ไซท์ ไปทานอะไรที่ไหน ผมบอกว่าเรื่อยเปื่อยนะส่วนใหญ่โทรสั่งข้างล่างให้เอามาส่ง แต่ไม่อร่อยผมบอกอย่าง
นั้น น้องเค้าบอกว่าเอางี้ถ้า วันไหนพี่อยู่ที่หาดใหญ่ไม่ได้ออนไซท์ เดี๋ยวเค้าใส่ปิ่นโตมาให้

เค้าทำอาหารภาคกลางนะ ตอนกลางวันต้องแวบมาทำกับข้าวให้พ่อทานก่อน แล้วจะใส่ปิ่นโตมาให้พี่ด้วย ผมบอก
ว่าจะดีหรือ เหมือนเอาท้องมาฝาก เค้าบอกว่าไม่เป็นไรหรอก คน กทม. มาก็เหมือนเค้าตอนมาใหม่ๆนึกถึงตัวเอง
นะ ผมเลยบอกเอางี้ ผมช่วยค่าอาหารปิ่นโตแล้วกันนะ เค้าพยักหน้าแล้วยิ้ม จร้า พี่

กริ๊ง...... เสียงโทรศัพท์ดัง ผมงัวเงียนึกว่าเอลี่มันคงไปเมามาอีกแน่ๆ ควานหาโทรศัพท์ ไม่ได้ดูว่าเบอร์อะไร Hi
what happened about you accident right? พี่จิม หนูเองค่ะ อ้าว...ขอโทษจร้า นึกว่าเอลี่นะ ผมแหงะดู
เวลาที่จอมือถือ บอกเวลา 1.30 น.มีอะไรให้พี่จิม ช่วยหรือ ป่าวค่ะพี่

หนูไปเล่าให้พ่อฟังเรื่องพี่ พ่อเลยทำอาหารฝากมานะ พี่สะดวกขับรถออกมาป่าวค่ะ ออกไปไหนไม่ได้หรอกวันนี้
ไม่มีรถ เอลี่ มันเอารถผมไปหาสาวนะ งั้นเดี๋ยวหนูเอาไปให้นะ ได้ครับ

อิอิ.....เพื่อนๆคิดลึกละสิ อย่าๆๆๆๆ สต้อป Negative thinking มะดีหรอก มันบาป

ผมจัดแจงอาบน้ำแต่งตัวให้มิดชิดถึงเค้าจะเป็นนักร้อง แต่เค้าเป็นลูกมีพ่อมีแม่ มีลูกเป็นแม่ที่ดีของลูก ต้องระวัง
ความคิดคนอื่นเดี๋ยวจะมองเค้าไม่ดี

พี่จิม..มันสันดานเสียอย่างนึงถ้ารู้สึกดีกับใคร จะปกป้องเค้าทั้งเกียรติและศักดิ์ศรี พี่จิม..แต่งตัวเสร็จ รีบลงลิฟท์จู๊ด
ลงมาข้างล่างทันใด มานั่งรอที่ฟร้อนท์ ไม่ถึง 5 นาที รถน้องเค้าก็เลี้ยวเข้ามา ผมเห็นแล้วละ แต่ทำเป็นเก็ก ไม่
สนใจ พอเค้าจอดรถได้ จูงมือเด็กผู้หญิงมาคนหนึ่ง เดินมาหาแล้วบอกว่าสวัสดีลุง .....นะลูก

ผมนึกในใจเป็นมวยเหมือนกันแหะ เอาลูกมาเป็นเกราะใช้ได้แหะ ผู้หญิงคนนี้ระวังตนพอสมควร ผมรับไหว้ บอก
ว่าทำไมทรมานลูกอย่างนี้ ตี 2 แล้วนะเด็กต้องพักผ่อน เค้าบอกว่าแวบเข้าบ้านก่อนไปเอาข้าวเปล่ามาด้วย เผื่อผม
หิวจะได้ทานเลย แล้วทานที่ไหนดีละผมนึกในใจ บนห้องเราก็ได้ เอาลูกมาเป็นเพื่อนคงไม่มีปัญหาหรอก

ขึ้นไปทานบนห้องของพี่ละกันนะ บนห้องเค้าจัดแจงอุ่นของทาน ส่วนลูกหรอหลับคร้อกๆ ที่เบาะโซฟานั่นแหละ
ผมดูทีท่าการจัดอาหารคล่องแคล่วดี เอาของใส่จานเสร็จมีเก็บกวาดทันใด เก็บซะเรี่ยมเลย อืม ใช้ได้แหะ

ระหว่างทานด้วยกันผมถามเค้าว่านึกอย่างไรบุกมาที่นี่ เดี๋ยวโดนพี่ปล้ำเอาว่าไง เค้าหัวเราะคิกๆ บอกว่าแหมพี่ ที่
หนูกล้ามานะ เพราะเดวเอลี่มันตามมานะ มะกี้เค้าไปที่ร้านพาสาวไปด้วยนี่ บอกว่าไปส่งสาวก่อนเดวตามมา หนูก็
ได้โอกาสแวบไปเอาข้าวเปล่าและหนีบลูกมาด้วยไง อีกอย่าง หนูรู้พี่ไม่กล้าปล้ำหรอก ขี้เก๊ก จะตาย อิอิ

พูดไม่ทันขาดคำหนอย เอลี่ เข้ามาแระแถมพยักคิ้วให้ ไอ้บ้าเอ๋ย มีการซุ่มไปสะอีก....เดวไม่มีแรงทำงานหรอก เอลี่
บอกว่าตามสบาย ไม่ขัดคอหรอก ป้าด ไอ้นี่มีฟามสุขมาถึงนอนเลยนะ ผมนึกในใจ ทานข้าวเสร็จ ถูบ้านให้อีกแหะ

อะไรหว่าเนี่ย แถมนั่งพับผ้าที่ผมหมกเอาไว้ อ้ายหยาผมงงแหะ กรูฝันไปป่าวเนี้ยะ เค้าบอกว่าหนุ่มโสด ก็อย่างนี้
ละ ซกมก แน่ว่าเราอีกแหะ ผมยิ้มแห้งๆ กว่าจะร่ำลากันได้ ปาไปตีสาม อีนังหนูลูกเค้าก็หลับไม่รู้เรื่องเลย ผมเลย
ต้องอุ้มลูกเค้ามาส่งที่รถ แล้วผมบอกว่าขอบคุณนะสำหรับความปราถนาดี

สาวเจ้าตอบมาว่าขอบคุณนะสำหรับความเป็นสุภาพบุรุษของผม พี่เดินทางปลอดภัยนะขับรถดีๆทางมันไกล อย่า
ขับเร็วมากละ จร้า ขอบคุณจร้า

ผมกลับขึ้นมาบนห้องนอนเอามือก่ายหน้าผากแล้วบอกตนเองว่า เรามาทำอะไรที่นี่ โชคชะตาเล่นตลกอะไรหรือ
ป่าวหว่าแทนที่จะได้เดินไปหาฝันผู้นำเข้าแกส แต่ดันโผล่ยันใต้มาเจอสาวเจ้าตามสเปคซะด้วย ใจเราอย่าเขวนะ
นายจิม....

ผู้หญิงมาที่ไหนพังที่นั้นเราไม่ใช่ มาร์คแอนโทนี่ ใจแข็งไว้ ทำงานดีกว่านะ นายจิม.......พรุ่งนี้มีงานไกลซะด้วย ว่า
แล้วนายจิม..ก็ คร้อกๆๆๆๆ พรุ่งนี้เจอกันนะครับ ว่าผมไปเจออะไรที่ภูเก็ต บายครับสำหรับวันนี้

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น